การใช้ Zero party data ในระบบออนไลน์ เริ่มมีบทบาท เมื่อ google ประกาศยกเลิก Third-party cookies หรือระบบการติดตาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่กำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะเมื่อไอโฟน ก็ยกระดับ privacy ของลูกค้าด้วยเช่นกัน ข้อจำกัดนี้ทำให้นักการตลาด ผู้ประกอบการ หรือแบรนด์ต้องปรับตัวในการ สร้างกลยุทธ์ที่ “ยินยอมให้ลูกค้าเต็มใจให้ข้อมูล” กลับมาและติดตามคุณอย่างพอใจ
แล้วในแง่ของธุรกิจ เราสามารถนำ “บรรจุภัณฑ์” มาทำให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร?
กล่องบรรจุภัณฑ์ที่คุณมี อาจไม่ได้มีแค่วางโลโก้เท่านั้น ลองนำมาปรับเพื่อสื่อสารกับลูกค้าของคุณให้มากขึ้นได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. ช่องทางติดต่อกลับที่เร็วและมีประสิทธิภาพ
ส่วนใหญ่แล้วเรามักใส่ข้อมูลเว็บไซต์ และช่องทางโซเชียลเป็นปรกติ แต่หากลองเพิ่มพื้นที่มุมหนึ่งให้ลูกค้า “ติดต่อเราได้ทันที” เมื่อคุณได้รับบริการที่เราต้องปรับปรุง อาจเป็นช่องทางไลน์ที่คุณใช้อยู่แล้ว แต่มันจะเพิ่มความรับผิดชอบและการสื่อสารตรงที่ลูกค้าจะฟีดแบคได้ทันที เพราะไม่เช่นนั้น คุณอาจไปเจอรีวิวที่ให้คะแนนติดลบ เพราะลูกค้าไม่สามารถติดต่อกับใครสักคนก็เป็นได้นะ!
2. สื่อสารเจตนารมณ์ของแบรนด์
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ลูกค้าได้รับสินค้าในมือ ด้วยกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ดี แล้วรับรู้ว่าแบรนด์มีเจตนารมณ์หรือมีความตั้งใจอะไรที่จะส่งถึง หลายครั้งพื้นที่ด้านในกล่อง สามารถเขียนเพื่อสื่อสารบางอย่างถึงลูกค้าได้เสมอ
3. แสดงออกว่าคุณชอบเราสิ!
ส่วนนี้จะคล้ายกับข้อแรก หรือคุณอาจแทรกใบปลิวเล็กๆ หรือ Mini Card เพื่อแนบช่องทางการบอกความประทับใจ ซึ่งอาจเป็นเพจ หรือช่องทางออนไลน์ที่ลูกค้าซื้อเพื่อรีวิวให้เห็น หลายครั้ง คนอาจคิดว่าแค่บริการที่ดีก็เพียงพอแล้ว แต่มันอาจไม่เพียงพอในยุคนี้ที่การตลาดแบบบอกต่อนั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อบอกโดยผู้ใช้จริง
การใส่ใจในจุดเล็กๆ แต่ใกล้ชิดโดยตรงกับลูกค้า จะช่วยให้แบรนด์สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและวัดผลได้ง่าย พร้อมแก้ปัญหาได้ทันท่วงทีหากเกิดกรณีผิดพลาดขึ้นมา ลองนำวิธีนี้ไปใช้ออกแบบให้ “กล่องบรรจุภัณฑ์” ของคุณเป็นมากกว่า “กล่องใส่สินค้า” ดูกันนะ
Comments