หากคุณกำลังมีความต้องการสั่งผลิตกล่องจั่วปัง นี่คือคำแนะนำจากเรา ที่อยากให้เจ้าของแบรนด์เช็คลิสและจัดเตรียมไว้ เพื่อป้องกันการผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนในการผลิตกล่องให้ธุรกิจคุณ
1.ประเภทและสัดส่วนของกล่องที่ต้องการผลิต
การวัดสัดส่วนของกล่อง และระบุประเภทกล่องที่ต้องการสั่งผลิต มีความสำคัญเป็นอย่างแรก และมีผลโดยตรงต่อการคำนวนราคาและระยะเวลาการผลิต ทั้งยังทำให้ผู้ประกอบการ ได้ชิ้นงานคุณภาพ เพราะโรงงานผลิตกล่องที่ได้มาตรฐาน จะทำการขึ้นชิ้นงานด้วย Digital Cutting ที่มีความละเอียดสูง และขึ้นชิ้นงานตัวอย่างจริง เพื่อทดสอบว่า กระดาษที่นำมาห่อหุ้มนั้นเข้ามุมพอดี ป้องกันปัญหากล่องบวม ปิดล็อคไม่ลง หรือเกิดรอยย่นที่ขอบมุมกล่อง ดูไม่สวยงาม ตัวอย่างประเภทของกล่อง เช่น
กล่องจั่วปังฝาเปิดปิด :- กล่องยอดนิยมในการสั่งผลิต ฝาเปิด-ปิดแม่เหล็กเน้นการปิดล็อค ใช้งานสะดวก ขณะที่ฝาเปิดปิดแบบริบบิ้น เน้นลูกเล่น มีสไตล์ ดูหรูหรา
กล่องลิ้นชัก :- กล่องประเภทนี้ลักษณะเหมือนการเปิดลิ้นชัก นิยมทำในกล่องขนมไหว้พระจันทร์ สินค้าสกินแคร์ รูปแบบกล่องลิ้นชักสามารถใส่สินค้าได้มากกว่า 1 ชิ้น เทคนิคการทำจะซับซ้อนกว่ากล่องฝาเปิด-ปิด
กล่องพับได้ :- เป็นกล่องนวัตกรรมที่สามารถทำออกมาในรูปแบบกล่องฝาเปิดปิด หรือกล่องหูหิ้วแบบริ้บบิ้น ตอบโจทย์ด้านการจัดส่ง การเก็บบรรจุ และสะดวกในการใช้งาน
กล่องฝาครอบ :- หนึ่งในรูปแบบยอดนิยมอีกประเภท มีวัสดุ 2 ชิ้นคือส่วนฝาและถาด เหมาะสำหรับใส่สินค้าขนาดเล็กอย่างเครื่องประดับ ไปจนถึงสินค้าที่มีขนาดใหญ่มาก
2.วัสดุหลัก ที่ใช้ผลิตกล่อง
การเลือกวัสดุห่อหุ้มกล่อง มีส่วนสำคัญรองลงมาต่อการคำนวนราคา และเทคนิคการผลิตกล่อง วัสดุบางประเภท มีข้อจำกัดในการผลิตกล่อง เช่น หนังเทียมจะมีความหนา การห่อต้องใช้เทคนิคและความชำนาญสูง เหมาะกับลักษณะกล่องแบบฝาเปิด-ปิดแม่เหล็ก มีข้อจำกัดคือไม่สามารถพิมพ์ลายบนหนังได้ แต่เหมาะมากกับการปั๊มโลโก้บนกล่อง ซึ่งให้ความหรูหรา และสวยงามอย่างมีรสนิยม เป็นต้น ตัวอย่างวัสดุหลักที่ใช้ เช่น
กระดาษคราฟท์ :- เหมาะสำหรับสินค้าที่อยากได้ภาพลักษณ์ธรรมชาติ เรียบง่าย
กระดาษอาร์ตการ์ด :- เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการภาพลักษณ์หรูหรา พรีเมียม
กระดาษเลคซีน :- เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการภาพลักษณ์เรียบหรู ทนทานต่อรอยขีดข่วน
หนังเทียมหรือ PVC พิมพ์ลาย :- เหมาะสำหรับสินค้าที่เน้นภาพลักษณ์ความพรีเมียม กันน้ำและคงทน
3.การพิมพ์ลวดลาย โลโก้ หรือข้อความบนกล่อง
ลวดลายที่ปรากฏบนกล่อง จะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นด้วยเทคนิคงานพิมพ์ ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นสำหรับการผลิตกล่อง แต่ได้ลูกเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ขณะเดียวกัน ปัจจุบันนี้ แบรนด์ไฮเอนด์ ที่เน้นความหรูหราแบบเรียบง่าย มักนิยมใช้กระดาษสี หรือกระดาษพิเศษ เช่น กระดาษเลคซีน มาห่อกล่อง แล้วปั๊มโลโก้ด้วยฟอยล์พิเศษ ซึ่งแบรนด์จะดูโดดเด่นกว่าการพิมพ์ลาย และเทคนิคนี้ ราคาจะประหยัดกว่างานพิมพ์
4.เทคนิคตกแต่งพิเศษ หรือลูกเล่นเพิ่มเติม
การระบุเทคนิคพิเศษก่อนการสั่งผลิตกล่อง ช่วยให้เลือกวัสดุได้ตอบโจทย์และลดข้อผิดพลาดในการผลิต เช่น การใช้ริบบิ้นเพื่อความสวยงาม น่ารัก หรือใช้การพิมพ์ข้อความบนกล่องด้านใน การติดแท็กในกล่องสำหรับใส่การ์ด หรือเทคนิคซับซ้อน เช่น ไฟประดับ หรือช่องพิเศษในการเปิด-ปิดตัวถาด เป็นต้น
5.มีตัวอย่างไอเดีย
สำหรับผู้ประกอบการที่อยากเริ่มต้นผลิตกล่อง การมีตัวอย่างไอเดีย (Reference) ให้ทีมออกแบบ จะช่วยให้นักออกแบบทำงานได้รวดเร็วอย่างมีทิศทาง และยังสามารถช่วยกำหนดวัสดุที่จะใช้ในการผลิตกล่องได้สะดวกขึ้น
Tips แนะนำ
● ออกแบบให้กล่องจั่วปังมีขนาดเหมาะสมกับสินค้า
● เลือกสีและลวดลายที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
● ออกแบบให้กล่องใช้งานง่าย
● ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
Comments